แฉ!!! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวจากเว็บไซต์
SkyNews เปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินข่าวกันมาบ้าง
หรือไม่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกันมากนัก ประเด็นที่ว่านี้ก็คือ
มีการตรวจจับได้ว่า
ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์บางแห่งในกรุงลอนดอนเข้าถึงข้อมูลของเจ้าของเครื่องที่
อยู่ในฮาร์ดดิสก์อย่างผิดกฎหมาย
โดยพยายามจะแฮคบัญชีธนาคารออนไลน์จากเครื่องคอมพ์ที่ลูกค้าส่งซ่อม...
หนึ่ง
ในกรณีที่เกิดขึ้นก็คือ ข้อมูลอย่างรหัสผ่าน (password) ที่ใช้ในการล็อกอิน
เพื่อเข้าใช้บริการออนไลน์บนเว็บไซต์ต่างๆ ตลอดจนภาพถ่ายส่วนตัวในวันหยุด
ของลูกค้าได้ถูกก็อปปี้ออกไปใส่ในแฟลชไดรฟ์โดยนักเทคนิคที่เป็นช่างซ่อมของ
ทางร้าน ส่วนอีกกรณีหนึ่ง ลูกค้าถูกหลอกให้จ่ายเงิน
โดยที่ทางร้านไม่ได้ทำอะไรเลย และข้อผิดพลาดง่ายๆ กลับถูกวินิจฉัยมั่วๆ
(แบบว่า ลูกค้าฟังแล้วไม่เข้าใจ) เพื่อให้รู้สึกว่า
มันเป็นปัญหาที่ลูกค้าต้องยอมจ่าย เจ้าหน้าที่สืบสวนจากสถาบันมาตรฐานการค้า
(Trading Standard Institute) กล่าวว่า เขาถึงกับช็อคไปเลย
เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
สำหรับ
การสืบสวนในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์เฝ้าระวัง (suveillance
software) เข้าไปในโน้ตบุ๊ก
ซึ่งมันจะทำงานทุกครั้งที่มีการล็อกอินเข้าไปในเครื่อง
โดยที่ผู้ใช้จะไม่ทันระวัง หรือจับสังเกตได้
ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะจับภาพกิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ
รวมถึงภาพใบหน้าของผู้ใช้ผ่านทางกล้องที่ติดมากับเครื่องแบบเรียลไทม์
ทำให้ฝ่ายสืบสวนสามารถระบุได้ว่า มีใครบ้างที่ยุ่งเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
และได้ทำอะไรกับเครื่องคอมพิวเตอร์บ้าง
ทีม
งานได้ทำให้เครื่องมีปัญหาในลักษณะที่สามารถตรวจสอบวินิจฉัยได้ง่าย
โดยปลดชิปหน่วยความจำที่อยู่ภายในเครื่องให้หลวม ซึ่งทำให้ไม่สามารถโหลด
Windows ได้
ซึ่งการแก้ไขให้เป็นปกติก็เพียงแค่กดชิปหน่วยความจำในเครื่องเข้าไปในคอน
เน็คเตอร์ให้แน่นก็เป็นอันเรียบร้อย โดยทีมงานได้เลือกร้านซ่อมคอมพ์ไว้ 6
แห่งด้วยกัน แทบทุกร้านวินิจฉัยอาการแบบมั่วๆ
หรือไม่ก็เรียกค่าบริการซ่อมแพงเกินกว่าเหตุยกเว้นร้านเดียว
กรณี
ของการกระทำผิดที่ร้ายแรงที่สุดก็คือร้านที่ชื่อว่า Revival Computers
ในแฮมเมอร์สมิธ ทางฝั่งตะวันตกของกรุงลอนดอน
หลังจากที่ทางร้านตรวจพบข้อบกพร่องที่แท้จริง
วิศวกรทางร้านโทรกลับมารายงานว่า
คอมพิวเตอร์ที่ส่งซ่อมต้องได้รับการเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ ซึ่งมีราคา 130
ปอนด์ (ประมาณ 7,300 บาท) นอกจากการโก่งค่าซ่อมแบบไร้เหตุผลนี้แล้ว
ซอฟต์แวร์เฝ้าระวังที่ติดไปกับเครื่องยังสามารถบันทึกได้ว่า
หนึ่งในนักเทคนิคที่ซ่อมเครื่องได้สืบค้นไฟล์ต่างๆ ในฮาร์ดดิสก์
รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล
ภาพถ่ายส่วนตัวในวันหยุดของเจ้าของเครื่องดังที่อยู่ในชุดบิกินี่
ซึ่งระหว่างที่แอบเปิดดูไฟล์ต่างๆ เขายังยิ้มอย่างมีความสุข
และโชว์ภาพให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ดูด้วยหลังจากดูภาพอย่างสนุก
สนานแล้ว ช่างเทคนิคคนที่สองดึงเครื่องไปดูภาพต่างๆ
ที่อยู่ในโฟลเดอร์ที่ระบุชัดเจนว่า "private" (ส่วนตัว)
จากนั้นเขาเอาแฟลชไดรฟ์ของตัวเองมาต่อกับโน้ตบุ๊ก เพื่อก็อปปี้ไฟล์ต่างๆ
ออกไป รวมถึงพาสเวิร์ด และรูปภาพเข้าไปในโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่า "mamma
jammas"
หนึ่งในไฟล์ที่ถูกก็อปปี้ไปนั้นจะมีไฟล์ข้อความที่จัดเก็บพาสเวิร์ดสำหรับ
เข้าไปใช้บริการ Facebook, Hotmail, eBay และบัญชีธนาคาร NatWest
เมื่อนักเทคนิคที่เป็นช่างซ่อมพบข้อมูลดังกล่าว
เขาไม่รอช้าที่จะเปิดเว็บบราวเซอร์บนโน้ตบุ๊ก
และพยายามล็อกอินเข้าไปในบัญชีธนาคารของลูกค้าที่เป็นเจ้าของเครื่องเป็น
เวลาประมาณ 5 นาที แต่ก็ไม่สำเร็จ
เนื่องจากรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าวทางทีมงานได้จัดทำปลอมขึ้นมา
ทางร้านปฏิเสธที่จะให้เหตุผลกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับทาง Sky News
โดยอ้างไม่ทราบว่ามีข้อกล่าวหาจากการกระทำในลักษณะนี้ด้วย
กล่าว
โดยสรุปก็คือ การส่งเครื่องให้ช่างซ่อมคอมพ์อาจจะเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝัน
หากทางร้านมีช่างฯที่ไร้จรรยาบรรณ
โดยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเจ้าของเครื่องมีตั้งแต่เบาสุด
คือได้รับคำตอบในการแก้ปัญหาที่มั่วนิ่ม
การเก็บค่าบริการซ่อมเกินความเป็นจริง และทีร้ายแรงสุดคือขโมยข้อมูล
ตลอดจนพยายามแฮคฯ ในจำนวน 6 ร้านซ่อม
มีเพียงแค่ร้านเดียวที่แก้ปัญหาให้โดยไม่คิดค่าบริการอีกด้วย
ข่าวไอที ทิป-เทคนิค คอมพิวเตอร์